z800

Kawasaki Z800  น้องเล็กโมเดลล่าสุด  (แต่ตัวไม่เล็ก)  จากตระกูล Z  ที่ถือเป็นตำนานอันเลื่องชื่อ ในรถสไตล์ Naked Bike จากค่ายยักษ์เขียว Kawasaki  มานานกว่า 40 ปี  ซึ่งถือเป็นรถ Bigbike  เครื่องยนต์ 4 สูบ  ที่ทำตลาดบ้านเราแบบจริงๆจังๆ  เป็นคันแรก  ในราคาและสมรรถนะ ที่สมเหตุผล     ซึ่งทาง Autospinn เราได้เกาะติด กันตั้งแต่งานเปิดตัว Pacific Rim เมื่อราว 3 เดือนก่อน  และติดตามกันต่อเนื่องมาจนถึง  วันเปิดตัว  ยันวันแรกที่สามารถไปทดลองขับขี่ได้      แต่นั่นยังไม่พอ  ทางเราต้องการจะเก็บภาพและถ่าย VDO สวยๆ ให้กับเจ้ายักษ์ส้ม Z800 คันนี้  เพื่อนำมาฝากแฟนๆ โดยเฉพาะ  จึงได้ขอยืมมาทำ VDO Review กันอีกครั้ง    ซึ่งในตอนนี้ขออนุญาติ ลงในส่วนของ รีวิวในส่วนเนื้อหาก่อน  VDO จะตามมาในภายหลังให้ชมกันอีกที
สำหรับรถทดสอบในครั้งนี้   ขอขอบคุณ Kawasaki Motors ประเทศไทย  สำหรับรถทดสอบคันนี้  Kawasaki  Z800 สีส้ม-ดำ   ราคาสุทธิ 375,000 บาท
2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_40
รูปลักษณ์ของตัวรถ  Kawasaki Z800 ถือเป็นรถที่มีความโดดเด่นสะกดทุกสายตา ที่ผ่านไปมาได้เป็นอย่างดี   ด้วยรูปทรงที่ตัวใหญ่บึกบึน ดูมีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรง    ดีไซน์ไฟหน้าที่ดูดุดัน  ตามแบบของ Z250   ร่วมกับไฟท้ายแบบ LED ที่เป็นรูปตัว Z  อันโดดเด่นมีความเป็นเอกลักษณ์  ร่วมกับเบาะนั่งที่ปักลายตัวอักษร Z   ท่อไอเสียรูปทรงเหลี่ยมแบบเดียวกับ Z1000 แต่ออกข้างเดียว  รูปลายท่อไอเสียออกคู่  ดูให้ความดุดันราวกับ ปลายกระสุนปืน
มีสเป็กขนาดยาง   ล้อหน้าสวมยางขนาด 120/70/R17   และล้อด้านหลังสวมขนาด  180/55/R17

2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_24
สำหรับในคันที่เราได้มาทดสอบนี้  ได้มีการสวมใส่ชุดแต่งเพิ่มเติมมาให้  นั่นคือ  ชิลด์บังลมด้านหน้า,  กันล้มที่ด้านข้างของเครื่องยนต์  และครอบที่นั่งท้ายตูดมด  ซึ่งทำให้ไม่สามารถซ้อนท้ายได้   แต่สวยงามขึ้น

ในด้านเฟรมตัวถัง  เป็นแบบ Tubular Backbone, High-Tensile Steel  (เฟรมท่อเหล็ก Backbone)  แตกต่างกับ Z1000 ที่ใช้เฟรม อลูมีเนียม จึงทำให้มีน้ำหนักที่มากกว่าถึง 20kg
2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_04
หน้าจอมาตรวัดแบบ LCD  Digital ซึ่งแยกจอออกเป็นสาม   จอด้านซ้าย  บอกอุณหภูมิเครื่องยนต์, Odometer, นาฬิกา    จอกลาง บอกความเร็วรอบเครื่องยนต์ เป็นสเกลในแนวตั้ง   จอด้านขวา บอกความเร็ว km/h , อัตราสิ้นเปลือง,  ระดับน้ำมันคงเหลือในถัง    พร้อมมีไฟ Eco แจ้งเตือนเมื่อขับขี่อย่างประหยัด     ระบบกุญแจให้เป็นแบบ Immobilizer  อย่างรถยนต์

ในส่วนของมิติตัวรถ   ยาวxกว้างxสูง   (2100x800x1050)mm  มีน้ำหนักรถอยู่ที่ 229 กก.   ความสูงเบาะ 834mm
2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_16
สำหรับในท่าทางการนั่งขับขี่   ด้วยความสูงเบาะที่สูงถึง 834mm  ตามสไตล์รถท้ายโด่งให้ดูสวยงาม  สำหรับคนที่สูง 174cm  อย่างผมยังเหยียบไม่ค่อยเต็มเท้านัก  ทำให้เวลาที่จะต้องขยับตัวรถ ยังต้องเขย่งเท้าอยู่   ซึ่งดูแล้วรถคันนี้น่าจะเหมาะกับผู้ที่มีส่วนสูงอย่างน้อย  เกือบๆ 180cm  และมีน้ำหนัก ในระดับ 70kg ขึ้นไป  น่าจะสามารถขับขี่ได้อย่างดูดี   และควบคุมรถได้สะดวกยิ่งขึ้น    กว่าผมที่มีน้ำหนักตัวอยู่ราว 58kg  ซึ่งเทียบกับส่วนสูงถือว่าตัวไม่ใหญ่นัก  ซึ่งตัวถังน้ำมันขนาดใหญ่ที่ดูอ้วนโตและโค้งมน  มีความจุ 17 ลิตร   มันดูไม่ค่อยจะกระชับเข้ากับลำตัวและท่อนขานัก

2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_29
และนอกจากนั้นยังมีจุดที่น่ารำคาญ   คือเวลาที่ผมตั้งขาตั้ง เพื่อที่จะจอดรถ  ด้วยการใช้เท้าซ้ายเตะขาตั้งออก  ก็มักประสบปัญหาคือ มันจะติดพักเท้าคนขี่ตลอด   แต่ถึงแม้จะน่ารำคาญแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่ากับน้ำหนักตัว และขนาดที่ดูเทอะทะ  ซึ่งทำให้เวลาเข็นเล่นเอาเหงื่อตก  โดยเฉพาะเวลาถอย  กับคันนี้ที่ใส่ตูดมด (ไม่มีที่จับเบาะท้าย)

2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_55
ขุมลังเครื่องยนต์   แบบ 4 สูบเรียง ความจุ 806cc DOHC 16 วาล์ว   ระบายความร้อนด้วยน้ำ   แรงม้าสุทธิ 113 ตัว ที่ 10200rpm  และแรงบิด 83Nm  ที่ 8000rpm

การขับขี่ออกตัว  เริ่มตั้งแต่ กำคลัช เตะลงเกียร์ 1  ออกตัว รู้สึกว่าคลัชมีน้ำหนักพอประมาณ  ไม่แข็งจนเกินไป  (น้ำหนักคลัชเบากว่า Z1000 แต่ก็ไม่เบาเท่า Ninja300 ที่เพิ่งขี่มาล่าสุด)   แต่ เมื่อใช้กับการขับขี่ในกทม. ที่อยู่ในช่วงฝนตก และรถติดแบบนรก  ซึ่งผมแทบจะขยับเขยื้อนได้เหมือนเป็นรถยนต์น้อยๆ หนึ่งคัน  เล่นเอาปวดนิ้วชี้กับนิ้วกลางซ้าย จากน้ำหนักคลัชเป็นอย่างมาก      เมื่อเปิดคันเร่งแล้วจึงปล่อยคลัชออก เครื่องยนต์ออกตัวอย่างนิ่มนวลราบรื่น   ดูแตกต่างกับบุคลิกรูปลักษณ์  ที่ดุดันเป็นอย่างมาก  มันขี่ง่ายกว่า 650  มาก   ในช่วงออกตัว ไม่มีกระโชกโฮกฮาก  ที่ดูดุดันก้าวร้าว แต่อย่างใด   รอบเครื่องยนต์เดินขึ้นเรียบ นิ่ง อย่างต่อเนื่อง  และเมื่อรอบเครื่องยนต์สูงถึงระดับ 4000rpm ขึ้นไป จะเริ่มฟังดูลื่นหูเป็นอย่างมาก ไพเราะเพราะพริ้ง     และจะสัมผัสถึงแรง G ที่มากขึ้นเรื่อยๆ  เมื่อรอบยิ่งสูงขึ้นไป   ซึ่งการใช้งานในถนน กทม. นี้  แทบจะไม่มีทางที่ผมจะใช้รอบเครื่องยนต์เกิน 7000rpm ได้โดยปลอดภัยเลย    ถ้าเทียบกับการใช้งานโดยทั่วไป  ถ้าหากไม่ได้เปิดคันเร่ง แรงๆ หรือลากรอบ จนถึงรอบที่เครื่องยนต์เริ่มส่งพละกำลังออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน  สมรรถนะ ไม่ได้ดูด้อยกว่า Z1000 แบบน่าเกลียดแต่อย่างใด เลย  ซึ่งต้องถือว่า  มีแบบเหลือๆ เกินพอ ที่จะทำให้คุณเร่งแซง  รถแต่ง ทั้งหลายได้อย่างง่ายดาย
2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_57
สำหรับการขี่ทดสอบสมรรถนะในครั้งนี้  ต้องบอกตามตรงว่า แทบจะไม่ได้ทำการทดสอบ เลยทั้งในด้านอัตราเร่ง  และความเร็วปลาย  เนื่องจาก  ฝนตกหนักตลอด ทุกวัน      แต่ในด้านอัตราสิ้นเปลือง ที่ได้ลองขี่ในการเดินทางกับการจราจรรถติดใน กทม.  อัตราสิ้นเปลือง อยู่ที่ราว 12km/l   แต่ในช่วงที่ขี่บนเส้นทางที่ค่อนข้างโล่งบนถนน พระราม 9 เพื่อที่จะไปถ่ายทำ VDO ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน  จะได้อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ ราว 15km/l

2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_65
ระบบส่งกำลัง  เกียร์ 6 speed  ใช้จานคลัชเปียก แบบ multiplate    ซึ่งในคันทดสอบนี้ เราพบปัญหากับการเข้าเกียร์ที่  เข้าเกียร์ได้ยาก    ซึ่งแตกต่างกับคันแรกสีดำ ที่เราได้ทดลองขี่ 1st Ride ในศูนย์  เป็นอย่างมาก   คือในคันสีดำนั้น จะเข้าเกียร์ได้ค่อนข้าง Smooth กว่าคันนี้มาก   ลักษณะของการเข้าเกียร์จะ เป็นแบบ Short Shift  (ช่วงฟรีของการเตะคันเกียร์มีน้อย) เช่นกัน   แต่กับเจ้าส้มนี้   การเข้าเกียร์     เข้า 1-> 2  หลากครั้งจะติดเกียร์ N   ซี่งตอนแรกเข้าใจว่า  ในช่วงเกียร์ 1-> 2 นี้  อาจจะต้องงัดให้แม่นยำ มากหน่อย  เพราะจากลักษณะแบบ Short Shift ร่วมกับ  การเข้าเกียร์ที่เวลาลงล๊อค จะค่อนข้างแข็งไม่นิ่มนวล เหมือนอย่างคันแรก       แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้   คือ  พบในจังหวะ   ที่ขึ้นเกียร์จาก  5->6 หลายครั้ง ไม่ลงล๊อก กลายเป็นเกียร์ ว่าง  ทำให้รถไหล  ซึ่งต้องรีบมาไล่เกียร์ ควานหาเกียร์กันใหม่  ให้ลงล๊อค ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้    และมิหนำซ้ำ ในช่วงที่มีการ ลดเกียร์ลง ปรากฏว่า เกียร์ไม่เข้าล๊อค และมีเสียงแกร็กๆ  เหมือนเกียร์ จะรูด  ซึ่งถ้าหาก เกิดอาการแบบนี้ในช่วงที่กำลังจะลดเกียร์ เพื่อเตรียมเข้าโค้ง หรือ E-Brake (เบรกโดยใช้กำลังเครื่องยนต์ช่วย) แบบกระทันหัน  นั่นค่อนข้างเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

ด้วยหน้าจอวัดรอบแบบ Digital  ซึ่งตัวเลขบอกรอบเครื่องยนต์ เป็นสเกลในแนวตั้ง  ทำให้มองดูรอบเครื่องยนต์ได้ลำบาก  และไม่ชินนัก  ได้ลองสังเกตุความเร็วต่อรอบเครื่องยนต์ได้ 2 ค่า    100km/h = 4500rpm    120km/h = 6000rpm
2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_11
ระบบกันสะเทือนและการควบคุมแฮนด์ลิ่ง  โช้คอัพคู่หน้าเป็นแบบหัวกลับ(Upsidedown)  ขนาดแกน 41mm  จาก KYB หน้าปรับ Preload และ Rebound ได้     โช้คอัพหลังเดี่ยวเป็นแบบแก๊ส  Uni-Trak  ปรับ Preload และ Rebound ได้ จาก KYB เช่นกัน มีการเลื่อนตำแหน่ง ให้ไปทางซ้าย 20mm  เพื่อปรับความสมดุลในด้านน้ำหนัก ทั้ง ฝั่งซ้าย และขวา     พูดถึงการดูดซับแรง  ทำได้ดีนุ่มนวลตามสไตล์โช้คอัพแบบหัวกลับ    การเซ็ตช่วงล่างออกมาแบบเดิมๆ จากโรงงาน ทำให้ขับขี่ได้อย่างสบายๆ  ไม่เมื่อยก้น  หรือสะเทือนท้องน้อยนัก  แต่ว่าการขับขี่บนเส้นทางที่มีรอยต่อของถนนเยอะ อย่างช่วงข้ามสะพานข้ามคลอง  มันดูจะนิ่มเกินไปสักหน่อย  แต่คงไม่ใช่ปัญหา ถ้าสามารถปรับเซ็ตอัพค่าที่เหมาะสมต่อการใช้งานได้     สำหรับแฮนด์ลิ่งการขับขี่  ด้วยความเป็นรถในสไตล์ Naked  ที่มีหน้าสั้น  แฮนด์บาร์ดูกว้าง แต่ต่ำ  และมีวงเลี้ยว 31 องศา  ในการหักเลี้ยวทั้งซ้ายและขวา  ซึ่งถือว่าค่อนขว้างกว้างพอสมควร   แต่จากที่ได้กล่าวไป ในการหักวงเลี้ยวสุดเพื่อเลี้ยวรถ  ต้องระวังให้ดี จากองศา ที่หักไปกว้าง และน้ำหนักตัวรถ ถ้าประคองไม่ดี  มีโอกาสที่จะพับล้มลงได้    การที่มีแฮนด์บาร์ตำแหน่งที่ต่ำ  ช่วยให้ท่าทางการนั่งเป็นไปได้อย่างสบาย ไม่เมื่อยจนเกินไป  สำหรับการขี่เดินทางไกล  และท่าทางในการวางแขนที่ดูจะเท่ห์กว่าปกติอีกด้วย    แต่กับการหักเลี้ยวเพื่อหลบหลีก  ยังดูยากกว่าพวกแฮนด์บาร์สูง  ใช้งานบนถนน  พบว่าตำแหน่งของก้านกระจกมองข้างที่ดูสูง ทำให้มันดูเกะกะ  และไปเบียดเบียนกระจกพวกรถกระบะ และรถตู้ในจังหวะที่มุดหลบหลีกการจราจรที่ติดขัด

2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_59
ระบบห้ามล้อ   เป็นจานดิสก์เบรกคู่  สำหรับล้อหน้าขนาดจาน  310mm  พร้อมปั๊มเบรกแบบ 4 ลูกสูบจาก  Nissin  และเบรกดิสก์หลังเดี่ยวขนาดจาน 250mm  แบบ 1 ลูกสูบจาก Nissin เช่นกัน   แต่ไม่มีระบบ ABS     สำหรับในการใช้งานจริง  ดูเบรกแล้วจะไม่ค่อยอยู่มือนัก  จากตัวรถที่มีน้ำหนักมาก ทำให้มีแรงเฉื่อยคอยฉุดรถให้ไหลอยู่  ซึ่งในการเบรก  แบบฉุกเฉินกระทันหัน  อาจต้องระวังเป็นพิเศษกับรถ ที่มีน้ำหนักมาก  และระบบเบรกไม่มี ABS ซึ่ง  ถ้าหากขับมาเร็ว และต้องกำเบรกฉุกเฉิน  ในครั้งเดียว และล้อเกิดล๊อค กับรถที่มีน้ำหนักตัวระดับนี้  ถ้าทักษะไม่คล่องรถอาจพับเอาง่ายๆ   ซึ่งอาจจะต้องมีการเบรก  ยั้งเบรก ไว้หน่อย พร้อมกับการใช้ E-Brake (ลดเกียร์ลงช่วย)  เพื่อให้กำลังเครื่องยนต์คอยฉุดหน่วงตัวรถไว้อีกที  น่าจะเป็นการคุมที่ดีและปลอดภัยกว่า

image: https://autospinn-images.icarcdn.com//2013/10/2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_09-500x333.jpg
2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_09
2013-Kawasaki-Z800-TestRide-VDO_42
สรุป  Kawasaki Z800  Naked Bike  4 สูบ  ผลิตในประเทศ   ทำราคาจับต้องได้   มากับสมรรถนะที่ถือว่าคุ้มค่ากับราคาค่าตัว    แต่โดยส่วนตัวสำหรับตัวผม คงไม่ชอบนัก  ถ้าจะต้องซื้อเพื่อนำมาขี่ใช้งาน ในกทม.  ถือแม้จะเป็นรถ สไตล์ Street Fighter  ใช้งานบนท้องถนนก็เถอะ (ไม่ใช่ท้องถนนบ้านเรา)   ผมขอกลับไปขี่ Ninja250  ที่สามารถมุดการจราจรได้อย่างคล่องตัว  แถมประหยัดน้ำมันกว่าราวเท่าตัว        แต่ถ้าผู้ที่ซื้อ เพราะชอบใจรัก 4 สูบ จริงๆ หรือคิดเพื่อซื้อมาขี่ท่องเที่ยว เป็นงานอดิเรก ไม่ได้ใช้งานในชีวิตประจำวัน  ถือว่าเป็นรถที่  คุ้มค่าน่าเล่นกับสมรรถนะ  เสียอย่างเดียวที่ไม่ให้ออปชั่น ABS มาให้ (เว้นแต่ Kawa จะ อินดี้ จับยัดสเป็ก ABS ในปีหน้า)   แต่ถ้าผู้ที่ขี่รถในพิกัดระดับนี้   อย่างน้อยคงจะมีทักษะพอตัว  สามารถที่จะเบรกร่วมกับการใช้ E-Brake ช่วย     ซึ่งโดยรวมแล้ว  คงจะไม่มีอะไรที่น่าจะต้องกังวลนัก  กับเจ้า Z800 นี้   แต่ผมก็ยังรู้สึกว่า ถ้าผมจะขี่เจ้านี่ได้อย่างปลอดภัย ผมควรที่จะมีส่วนสูงอย่างน้อย 180cm  ร่วมกับ  น้ำหนักตัวที่มากกว่า นี้   หรือไม่ก็อาจจะต้องไปโหลดรถลง  พร้อมกับฟิตหุ่น ให้บึกกว่านี้


Read more at https://www.autospinn.com/2013/10/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-kawasaki-z800-%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b9%8c%e0%b8%aa%e0%b9%89%e0%b8%a1-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88/#lS8kqFpfdb1hZUKi.99

Comments

Popular posts from this blog

forza300

cbr500